เทคนิคเช็คสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางไกล 2563


เช็คสภาพรถยนต์เตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไกล สวัสดีค่ะเข้าสู่ช่วงปลายปี 2563 เช่นนี้ แน่นอนว่าหลายคนคงเตรียมแพลนวันหยุดยาวกับสถานที่ท่องเที่ยวรวมไปถึงการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ และวันหยุดยาวในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนนั้นมีรถยนต์ส่วนตัวเป็นของตัวเอง ซึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการเลือกเดินทางภายในประเทศสำหรับการเดินทางโดยรถยนต์นั้นคือการเช็คสภาพรถยนต์ก่อนการเดินทางไกล เพื่อเตรียมความพร้อมและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการเดินทางซึ่งจะมีวิธีการเช็ครถหรือการเช็คสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางไกลแบบไหนบ้างนั้น วันนี้เรารวบรวมคำแนะนำดีๆ มาฝากกันแล้วค่ะ… เลือกเช็คล้อและยางรถยนต์ จุดที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางไกลสำหรับล้อและยางรถยนต์ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่บนท้องถนนนั้น เกิดจากยางระเบิดขณะการขับขี่รถยนต์ ดังนั้นยางรถยนต์จึงควรต้องอยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานไม่มีการรั่วซึม แตกลายงา และมีดอกยางที่เพียงพอต่อการยึดเกาะถนน และควรเติมลมยางให้ได้มาตรฐานตามที่คู่มือประจำรถยนต์กำหนด เช็คสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ เรียกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับเครื่องยนต์นั่นก็คือแบตเตอรี่รถยนต์ โดยควรตรวจดูสภาพของแบตเตอรี่ว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และพร้อมใช้งานหรือไม่ อีกทั้งยังควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดคราบขี้เกลือจากขั้วแบตเตอรี่ ไปจนถึงการเช็คระดับแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่กำหนด อีกทั้งควรตรวจสอบในส่วนของความแน่นของขั้วแบตฉนวนหุ้มสายไปจนถึงควรใช้ปริมาณแบตเตอรี่รวมถึงความเสื่อมสภาพให้ดีก่อนออกเดินทาง  การเช็คช่วงล่างของรถยนต์ การเช็คช่วงล่างของรถยนต์ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการขับขี่ด้วยคุณสามารถเลือกเช็คได้โดยการเลือกขับบนท้องถนนทางเรียบตรงและสังเกตว่าพวงมาลัยนั้นตรงหรือไม่หากพวงมาลัยไม่ตรงก็สามารถนำรถไปจะตั้งพวงมาลัยที่ศูนย์ใหม่ อีกทั้งยังควรเช็คในส่วนต่างๆของช่วงล่างรถยนต์เช่นลูกหมาก เช็คคราบน้ำมัน บริเวณโช๊คว่ามีการรั่วไหลหรือไม่เพราะระบบช่วงล่างของรถยนต์มีผลต่อการทรงตัวในการขับขี่รถยนต์นั่นเอง เช็คระดับน้ำมันเบรคและระบบเบรค อีกหนึ่งปัจจัยหลักสำหรับการเช็คสภาพรถยนต์สำหรับการเดินทางไกลนั่นก็คือในส่วนของระดับน้ำมันเบรคและระบบเบรคเพราะ ระบบเบรคถือได้ว่าสำคัญสำหรับการขับขี่เป็นอย่างมาก เช็คระบบไฟต่างๆ ของตัวรถ การขับขี่รถยนต์ในระยะทางที่ไกลหรือการขับขี่ออกต่างจังหวัดนั้น ควรเช็คในส่วนของระบบไฟของรถยนต์ให้ครบทุกจุดไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉินต่างๆ ว่าสามารถใช้งานได้ครบทุกจุดหรือไม่อีกทั้งความสว่างเดียวควรต้องเห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เดินทางในช่วงกลางคืนถือว่าจำเป็นเป็นอย่างมากเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายและเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากการเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้นแล้วนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการเดินทางระยะไกลด้วยรถยนต์นั่นก็คือการเตรียมชุดเครื่องมือประจำรถยนต์ให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นยางอะไหล่ แม่แรง หรือชุดเครื่องมือในการถอดล้อที่เติมลมฉุกเฉิน สายพ่วงแบตสายลากรถ ไฟฉายและเครื่องมือต่างๆ เอาไว้จะได้อุ่นใจในยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา ซึ่งทุกครั้งก่อนออกเดินทางไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้หรือการเดินทางระยะไกลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายปีนี้ที่เข้าสู่ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวและการเดินทางวันหยุดยาวของหลายๆคน และทุกคนต้องเช็คสภาพรถยนต์ให้ดีก่อนออกเดินทางแล้วไม่ขับรถด้วยความประมาทกันนะคะ ที่มา วิธีเตรียมรถยนต์ให้พร้อมก่อนเที่ยวหน้าหนาว ลุยขับทางไกล

เทคนิคการเดินทางต่างประเทศ ในยุคโรคระบาด 2020


เทคนิคการเดินทางต่างประเทศ ช่วงมีสถานการณ์โรคระบาด ควรเตรียมตัวอย่างไร เรียกได้ว่าสำหรับการเดินทางไปยังต่างประเทศของหลายๆคน ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ซึ่งหลายคนมีแผนในการเดินทางไปยังต่างประเทศหลากหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของธุรกิจ เรื่องการทำงาน ไปจนถึงเรื่องการศึกษา ที่ทำให้เราไม่อาจหลีกเลี่ยงในการเดินทางไปยังต่างประเทศได้ อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ที่หลากหลายประเทศมีสถานการณ์ที่รุนแรง และยังไม่มีการผลิตวัคซีน รวมถึงวิธีการในการรักษาหายขาด ซึ่งแน่นอนว่าหลากหลายคนหลีกเลี่ยงในการเดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงนี้ไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีที่จะให้คุณสามารถเดินทางไปต่างประเทศในช่วงที่มีโรคระบาดได้นั่นเอง โดยคุณต้องมีการเตรียมความพร้อมต่างๆ ให้แก่ตัวคุณเองจะมีเทคนิคและวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างนั้นเราได้รวบรวมมาฝากค่ะ ศึกษาประเทศจุดหมายปลายทางหรือภาษาอังกฤษ เรียกว่าหลายคนคงจะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษสำหรับใช้สื่อสารเป็นภาษากลางในการเดินทางต่างประเทศกันอยู่แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ในยุคนี้การสื่อสารโดยภาษาอังกฤษอาจจะไม่ช่วยทั้งหมดดังนั้นจึงควรต้องฝึกภาษาท้องถิ่นของประเทศจุดหมายปลายทาง ที่มีภาษาแม่เป็นภาษาในประเทศของตัวเองเช่น อาจฝึกภาษาอื่นๆเพิ่มเติมหากต้องเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักหรือภาษาท้องถิ่นอื่นๆ โดยควรจำในส่วนของคำศัพท์ ประโยคที่จำเป็นหรืออาจจะจดใส่โน้ตในโทรศัพท์มือถือก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ควรต้องจดในส่วนของ คำศัพท์ที่สำคัญเช่นอาการเจ็บป่วยโรงพยาบา ลสถานทูต ไปจนถึงอาการต่างๆ เบื้องต้น เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คุณสามารถสบายใจได้ว่าคุณจะพอสามารถคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลในต่างประเทศหากเกิดการเจ็บป่วยหรือความผิดปกติของร่างกายของเราได้ เบอร์โทรฉุกเฉินและสำเนาเอกสารสำคัญในการเดินทาง มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าค่อนข้างสำคัญนั่นก็คือเบอร์โทรฉุกเฉินของเบอร์โทรศัพท์ในต่างประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรของสถานีตำรวจ สถานพยาบาล สถานทูตประเทศไทยประจำประเทศนั้นๆ นอกจากนี้จึงควรเตรียมสำเนาเอกสารสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสำเนาเล่มพาสปอร์ตหนังสือเดินทาง บัตรประชาชน ตั๋วเครื่องบินขากลับ สำเนาใบจองโรงแรมและเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ ที่จำเป็นให้เราสามารถใช้โทรติดต่อสื่อสารในเวลาฉุกเฉินขึ้นมา ประกันเดินทาง ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการเดินทางออกเพียงปากประเทศในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคต่างๆเช่นนี้ เนื่องจากประกันเดินทางนั้นมีในส่วนของความคุ้มครองที่หลากหลายไม่เพียงแค่เฉพาะช่วงเวลาที่คุณเดินทางโดยสารเครื่องบินเท่านั้น จะมีในส่วนของการรักษาพยาบาล การเกิดอุบัติเหตุ ไปจนถึงการเสียชีวิตในต่างประเทศ ซึ่งคุณควรเลือกการเดินทางที่เหมาะสมกับการเดินทางระยะเวลาในการเดินทางความคุ้มครองที่เหมาะสม ทั้งค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการเลือกทำประกันเดินทางก่อนเดินทางไปต่างประเทศถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรทำและคนเลือกแผนความคุ้มครองที่ เหมาะสมก่อนการเดินทางของคุณอีกด้วย นอกจากเบื้องต้นที่กล่าวมาแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางไปยังต่างประเทศนั่นก็คือการศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ตรวจโควิดที่บ้าน […]

ข้อควรรู้เดินทางออกต่างประเทศช่วงโควิด ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?


ข้อควรรู้เดินทางออกต่างประเทศช่วงโควิด สามารถทำได้ไหม ในปัจจุบันถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการไม่พบผู้ติดเชื้อเป็นระยะเวลานาน ไปจนถึง จำนวนของผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้ที่รักษา ที่มีจำนวนน้อยลงเป็นอย่างมากทำให้สถานการณ์ภายในประเทศไทยเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 นั้นมีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับในต่างประเทศบางประเทศที่ยังต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 เป็นอย่างหนัก และยังมีการระบาดที่รุนแรงโดยอาจจะไม่ทราบว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 นี้จะยุติลงเมื่อใด สำหรับหลายๆคนนั้น มีความจำเป็นในการเดินทางไปยังต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการทำงานธุรกิจ การทำงาน การศึกษาทำให้ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังต่างประเทศได้ซึ่งถึงแม้ขณะนี้ประเทศไทยจะยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับชาวไทยเองที่ต้องการเดินทางออกต่างประเทศนั้นสามารถเดินทางได้หรือไม่และมีข้อควรระวังอะไรที่ควรรู้ 1.ก่อนอื่นควรตรวจสอบประเทศปลายทางที่ต้องการเดินทางว่ามีการเปิดประเทศแล้วหรือยัง สามารถเดินทางเข้าประเทศปลายทางได้หรือไม่เนื่องจากอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อในแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกัน โดยเราควรเช็คว่าประเทศปลานทางนั้นได้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวหรือให้คนต่างชาติเข้าในประเทศแล้วหรือไม่ 2.ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ในประเทศปลายทาง ไปจนถึงการศึกษาข้อมูลรวมถึงข่าวสารการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 1 9 จากสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศนั้นๆ 3.ตรวจสอบในส่วนของมาตรการการเดินทางเข้าประเทศของประเทศจุดหมายปลายทาง ประเภทวีซ่าที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากเอกอัครราชทูตของประเทศนั้นๆหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับจุดหมายปลายทางเพื่อไม่ให้ถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าเมืองจากประเทศปลายทาง 4.ตรวจสอบเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับใช้ในการเดินทางเข้าประเทศจุดหมายปลายทาง อาทิเอกสารการตรวจเชื้อ covid19 เอกสารการตรวจสุขภาพใบรับรองแพทย์เป็นต้น สำหรับการเดินทางไปยังต่างประเทศในขณะนี้จะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างมากกว่าปกติเนื่องจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ covid19 ในต่างประเทศที่ค่อนข้างเข้มงวด เช่นเดียวกัน โดยในบางประเทศอาจมีการกักตัวหลังจากเดินทางเข้าประเทศดังนั้นคุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง แต่หากเป็นไปได้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในขณะนี้ควรหลีกเลี่ยงนอกเสียจากว่าประเทศปลายทางจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้สามารถเข้าไปเดินทางท่องเที่ยวในประเทศใดแล้วนั่นเอง ที่มา https://www.airportthai.co.th

เทคนิคการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกสำหรับมือใหม่หัดเดินทาง


วิธีขึ้นเครื่องบินครั้งแรกสำหรับมือใหม่หัดเดินทาง สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแน่นอนว่าหลายคนนั้น อยากเดินทางท่องเที่ยวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ โดยในยุคนี้เราสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังลดระยะเวลาในการเดินทางได้ง่ายๆ ผ่านการโดยสารโดยเครื่องบินการเดินทางโดยเครื่องบินและเราสามารถเดินทางได้ทั้งในประเทศและการเดินทางออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งในวันนี้สำหรับใครที่เพิ่งเคยขึ้นเครื่องบินครั้งแรกและกำลังกังวลใจว่าจะต้องทำยังไงการขึ้นเครื่องบินมีวิธีการอย่างไรวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ สำหรับมือใหม่หัดเดินทางโดยเครื่องบินมาฝากกันค่ะ… สำหรับการเดินทางขึ้นเครื่องบินในประเทศนั้นส่วนใหญ่จะใช้เพียงบัตรประชาชนและเลขบุ๊คกิ้งหรือตัวเลขสำหรับการจอง ตั๋วเครื่องบินโดยคุณสามารถเลือกเช็คอินได้ทางที่เคาน์เตอร์เช็คอิน และเลิกเช็คอินได้ที่ตู้คีออสของสายการบินนั้นๆ สำหรับการเดินทางต่างประเทศต้องใช้พาสปอร์ตสำหรับการเดินทาง เมื่อเดินทางถึงสนามบินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกต่างประเทศหรือในประเทศให้คุณเลือกเดินทางเคาน์เตอร์ของสายการบินนั้นๆ ซึ่งในส่วนของเคาน์เตอร์สายการบินจะมีแบ่งในส่วนของชั้น Business และชั้น economy ตามที่เลือกจองมาจากนั้นให้นำหนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนพร้อมหมายเลขจองตั๋วเครื่องบินที่เราจองทำการเช็คอินโหลดกระเป๋า และออกบอร์ดดิ้งพาสได้ที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน หรือสามารถเช็คจากบอร์ดแสดงเวลาเที่ยวบินเพื่อดูว่าเราต้องไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ไหน อีกทั้งเทคนิคที่สำคัญคือควรเดินทางไปถึงสนามบินอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เพราะต้องเผื่อเวลาในกรณีที่โหลดกระเป๋ามาจนถึงในกรณีที่สนามบินวันนั้นมีนักท่องเที่ยวเดินทางเยอะ เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วนั้น สิ่งต่อไปที่ต้องทำก็คือถือพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาส ที่จะใช้ขึ้นเครื่องบิน โดยในบอร์ดดิ้งพาสจะมีชื่อ เลขที่นั่ง จุดหมายปลาย ทางประตูทางออกขึ้นเครื่อง และเวลาขึ้นเครื่อง ซึ่งเราควรเช็คระยะเวลาให้ดีจากนั้นเดินเข้าไปในโซนของผู้โดยสารขาออก เพื่อทำการตรวจกระเป๋าและสิ่งของติดตัว สำหรับการเดินทาง หลังจากนั้นหากเป็นการเดินทางต่างประเทศจะมีแยกในส่วนของช่องสำหรับชาวไทยและเช่าสำหรับชาวต่างชาติซึ่งเราสามารถเลือกเดินเข้าช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติได้ ซึ่งช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัตินั้นจะมีความรวดเร็วกว่าโดยมากใช้เพียงแค่พาสปอร์ต ใส่ในเครื่องสแกนและสแกนบาร์โค้ดบนบอร์ดดิ้งพาสเท่านั้น เมื่อประตูเปิดแล้วให้เข้าไปยืนยันตำแหน่งรอยเท้า ถอดหมวก ถอดแว่นตาจากนั้นมองกล้อง วางนิ้วชี้ข้างขวาหรือข้างซ้ายก็ได้ลงบนเครื่องสแกนนิ้ว เมื่อประตูเปิดก็สามารถเดินออกไปได้เป็นอันเสร็จอีก หนึ่งขั้นตอน หลังจากนั้นให้คุณเดินทางมองหาเกทที่คุณต้องขึ้นเครื่อง ซึ่งสามารถดูได้จากป้ายด้านบนของสนามบินจะมีหมายเลขเกททางออกที่เท่าไหร่อยู่ฝั่งไหน จากนั้นเดินตามป้ายไปถึงเกทของคุณ และรอเวลาให้เจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง เมื่อเข้าไปยังเครื่องบินแล้วก็ให้คนนั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้บนบัตรโดยสาร โดยหมายเลขที่น่าจะติดอยู่บนที่เก็บสัมภาระหากไม่เจอสามารถให้แอร์โฮสเตสหรือพนักงานบนเครื่องบินและสามารถช่วยเหลือได้ หากมีกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ซื้อของช้อปปิ้งต่างๆ ควรเก็บไว้ในช่องสัมภาระเหนือศีรษะ สำหรับกระเป๋าใบเล็กหรือกระเป๋าติดตัวสามารถวางไว้ใต้เบาะที่นั่งด้านหน้าได้และรัดเข็มขัดนิรภัยปิดโทรศัพท์มือถือ […]